น้ำยาล้างจานประกอบไปด้วยส่วนผสมหลายอย่าง และน้ำยาล้างจานแต่ละยี่ห้อก็มีการใช้วัตถุดิบในการผลิตที่แตกต่างกัน ในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน หรือจะใส่สารบางตัวให้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นแตกต่างไปจากยี่ห้ออื่นๆ ซึ่งก็จะส่งผลต่อการใช้งานว่า ผู้ใช้แต่ละคนจะเน้นคุณสมบัติด้านใดของน้ำยาล้างจาน ก็จะเลือกใช้ตามความชอบของแต่ละคน บางคนชอบที่ล้างคราบมันได้เกลี้ยง บางคนชอบที่ใช้แล้วมือไม่แห้ง ไม่ลอกเป็นขุย บางคนชอบที่มีกลิ่นหอม บางคนชอบที่ไม่มีกลิ่น

คุณสมบัติของน้ำยาล้างจานมีอะไรบ้าง

1. 1. ขจัดคราบมัน ชำระล้างสิ่งสกปรก ไม่ทิ้งคราบมันบนภาชนะ
   2. ขจัดคราบฝังแน่น
   3. มีฟองในปริมาณพอเหมาะ และล้างน้ำออกง่าย
   4. ไม่ทำให้มือแห้ง เช่น มีส่วนผสมของสารสกัดจากมะพร้าว ช่วยถนอมมือ
   5. ย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
   6. มีความคงตัว ไม่เสียง่าย
   7. มีกลิ่นหอม หรือไม่มีสีไม่มีกลิ่น น้ำยาล้างจานหลายยี่ห้อใส่กลิ่นที่แตกต่างเพื่อให้ผู้ใช้ชื่นชอบ หรือเพื่อดับกลิ่นคาวของอาหารที่ติดภาชนะ แต่ก็มีผู้ใช้บางกลุ่มไม่ต้องการน้ำยาล้างจานที่มีกลิ่น เช่น โรงงานผลิตอาหาร โรงงานผลิตน้ำ ผลิตน้ำนม โรงงานเบเกอร์รี่ เพื่อป้องกันกลิ่นที่แปลกปลอมติดไปกับอาหาร
   8. มีส่วนผสมของสารจากธรรมชาติ
   9. ขจัดคราบมัน ชำระล้างสิ่งสกปรก ไม่ทิ้งคราบมันบนภาชนะ
   10. ขจัดคราบฝังแน่น
   11. มีฟองในปริมาณพอเหมาะ และล้างน้ำออกง่าย
   12. ไม่ทำให้มือแห้ง เช่น มีส่วนผสมของสารสกัดจากมะพร้าว ช่วยถนอมมือ
   13. ย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
   14. มีความคงตัว ไม่เสียง่าย
   15. มีกลิ่นหอม หรือไม่มีสีไม่มีกลิ่น น้ำยาล้างจานหลายยี่ห้อใส่กลิ่นที่แตกต่างเพื่อให้ผู้ใช้ชื่นชอบ หรือเพื่อดับกลิ่นคาวของอาหารที่ติดภาชนะ แต่ก็มีผู้ใช้บางกลุ่มไม่ต้องการน้ำยาล้างจานที่มีกลิ่น เช่น โรงงานผลิตอาหาร โรงงานผลิตน้ำ ผลิตน้ำนม โรงงานเบเกอร์รี่ เพื่อป้องกันกลิ่นที่แปลกปลอมติดไปกับอาหาร
   16. มีส่วนผสมของสารจากธรรมชาติ

ทั้งนี้การเลือกใช้สารต่างๆ ในเปอร์เซ็นต์ที่แตกต่าง ก็จะมีผลต่อต้นทุนและราคาของน้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างจานที่เข้มข้นกว่า หรือใส่สารที่มีคุณสมบัติพิเศษมากกว่า ก็มีแนวโน้มที่จะมีราคาสูงกว่า แต่ไม่เสมอไปว่าน้ำยาล้างจานที่มีราคาสูงจะมีคุณภาพดี ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจในผลการใช้และการพิจารณาราคาของผู้ใช้น้ำยาล้างจานนั่นเอง

จากข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติของน้ำยาล้างจานที่ดี คุณสมบัติหลักที่สำคัญก็คือเรื่อง การขจัดคราบมันบนภาชนะ ซึ่งพระเอกของส่วนผสมที่ขจัดคราบมันนั้นก็คือ สารที่เรียกว่า สารลดแรงตึงผิว สารนี้มีคุณสมบัติคือ เมื่อใส่เพียงเล็กน้อยลงในน้ำ จะไปลดแรงตึงผิวของน้ำ ทำให้เกิดฟองขึ้นมา

สารลดแรงตึงผิว ส่วนใหญ่เป็นสารประกอบอินทรีย์ ซึ่งในโมเลกุลของสารนี้มี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ชอบน้ำ (hydrophilic group) และส่วนที่ไม่ชอบน้ำ (hydrophobic group) ซึ่งส่วนที่ไม่ชอบน้ำนี้จะไปจับกับคราบมันคราบสกปรก แล้วหลุดออกจากภาชนะ ละลายไปกับน้ำที่ติดอยู่กับส่วนที่ชอบน้ำ ทำให้เกิดกระบวนการทำความสะอาด

ผลิตภัณฑ์ล้างจานกรีนพลัส มีส่วนผสมของ สารลดแรงตึงผิวที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

น้ำยาล้างจานในท้องตลาดมีหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายคุณสมบัติ หลากหลายราคา อาจมีวิธีการแบ่งกลุ่มของน้ำยาล้างจานดังนี้

แบ่งตามความเข้มข้น

1. 1. เข้มข้นมาก ส่วนใหญ่จะมีราคาที่สูงกว่าเข้มข้นน้อย เวลาใช้งานก็จะใช้ในปริมาณที่น้อยกว่า ขจัดคราบมันได้ดีกว่า น้ำยาล้างจานชนิดนี้นิยมใช้ในผู้ใช้ครัวเรือน และร้านอาหารที่ภาชนะมีคราบมันสูง
   2. เข้มข้นน้อย ส่วนใหญ่จะมีราคาที่ถูกกว่า มักนิยมใช้ในร้านอาหาร เพราะใช้ปริมาณมาก และไม่สามารถควบคุมการเทใช้ของพนักงานล้างจาน จึงนิยมใช้สูตรนี้ เพื่อความประหยัดต้นทุนของธุรกิจ

แบ่งตามกลิ่น

1. 1. แต่งกลิ่น ส่วนใหญ่มักจะแต่งกลิ่นมะนาว เพื่อดับกลิ่นคาวที่ติดภาชนะ หรือบางยี่ห้อก็ใช้กลิ่นน้ำหอมที่แตกต่าง เพื่อสร้างความพอใจให้กับลูกค้าในการเลือกใช้ เช่น กลิ่นสตรอเบอร์รี่ กลิ่นมะกรูด กลิ่นพีช กลิ่นส้ม
   2. ไม่แต่งกลิ่น ในบางประเทศ เช่น ประเทศเวียดนาม บางธุรกิจที่เกี่ยวกับการผลิตอาหาร และเครื่องดื่มมักเลือกใช้น้ำยาล้างจานที่ไม่แต่งสี ไม่แต่งกลิ่น เพื่อป้องกันกลิ่นน้ำยาล้างจานติดภาชนะ เช่น ใช้ล้างถังน้ำดื่ม ล้างถังนม

แบ่งตามการใช้งาน

1. 1. ล้างจานทั่วไป เช่น ล้างจานชามทั่วไป
   2. ล้างภาชนะเฉพาะ เช่น ล้างขวดนม ก็มักจะใช้สารที่มีความอ่อนโยน

น้ำยาล้างจานกรีนพลัส มี 3 สูตร

1. 1. ล้างจานกรีนพลัส สมาร์ท เป็นน้ำยาล้างจานสูตรเข้มข้น ใช้ปริมาณเล็กน้อย สามารถขจัดคราบมันบนภาชนะได้เกลี้ยง ไม่ทิ้งคราบมัน ความลื่น บนภาชนะ มีทั้งกลิ่นมะนาว และไร้สีไร้กลิ่น มีส่วนผสมหลัก 4 ตัว ขจัดคราบมัน สารชำระล้าง ผงฟอง(SLS) ขจัดคราบฝังแน่น
      สำหรับสูตรเข้มข้น ชนิดไร้สีไร้กลิ่น ไม่มีตัวขจัดคราบฝังแน่น ไม่มีผงฟอง (จึงนิยมใช้ในโรงงานผลิตอาหาร) แต่เพิ่มเปอร์เซ็นต์ของสารขจัดคราบมัน และใส่สารสกัดจากมะพร้าว เพื่อช่วยถนอมมือ อ่อนโยนขึ้น
   2. ล้างจานวีเซฟ มีทั้งกลิ่นมะนาว/ไร้สีไร้กลิ่น ใส่สารที่มีคุณสมบัติขจัดคราบมัน ในเปอร์เซ็นต์ที่น้อยกว่าสูตรเข้มข้น และไม่มีตัวขจัดคราบฝังแน่น จึงมีต้นทุนการผลิตและราคาขายที่ต่ำกว่าสูตรเข้มข้น นิยมใช้ในธุรกิจและร้านอาหารที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย
   3. ล้างจานซูเปอร์เซฟ มีความเข้มข้นน้อยกว่าสูตรวีเซฟ จึงมีราคาถูกกว่าสูตรวีเซฟ และมีเฉพาะกลิ่นมะนาว สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการน้ำยาล้างจานที่มีราคาถูก

สารต่างๆ ที่ใช้ในน้ำยาล้างจานกรีนพลัส

• • Linear Alkyl Benzene Sulfonate, Sodium Salt เป็นสารขจัดคราบมัน ตัวนี้ในสูตรน้ำยาล้างจานที่เข้มข้นก็จะมีเปอร์เซนต์ที่สูงกว่า
  • Sodium Lauryl Ether Sulfate เป็นสารชำระล้าง
  • Sodium Lauryl Sulfate (SLS) เป็นผงฟอง ซึ่งสารนี้ไม่ได้ใส่ในน้ำยาล้างจานสูตรเข้มข้น ไร้สีไร้กลิ่น
  • Ethoxylate Alcohol ขจัดคราบฝังแน่น สำหรับสูตรวีเซฟ และซูเปอร์เซฟไม่มีตัวนี้
  • Coconut Diethanolamide ช่วยเพิ่มฟอง แต่เป็นสารสกัดจากน้ำมันมะพร้าว ซึ่งให้ความอ่อนโยนกับการใช้มากขึ้น ถนอมมือ สำหรับสูตรวีเซฟและซูเปอร์เซฟไม่มีตัวนี้

น้ำหอมอเนกประสงค์กรีนพลัส ใช้สำหรับดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ กลิ่นอับ ให้กลิ่นหอม ในพื้นที่ต่างๆ เช่น ในห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า สามารถใช้ได้บ่อยเท่าที่ต้องการ

น้ำหอมอเนกประสงค์กรีนพลัส มี 2 ชนิด คือ สูตรน้ำ และสูตรเข้มข้น(ไม่มีส่วนผสมของน้ำ) สูตรน้ำจะมีราคาที่ประหยัดกว่าสูตรเข้มข้น

น้ำหอมอเนกประสงค์กรีนพลัส มี 2 ชนิด คือ สูตรน้ำ (มี 3 กลิ่น คือ กลิ่นมิราเคิล กลิ่นชาร์มมิ่ง กลิ่นเพอร์เฟคเดย์) และสูตรเข้มข้นไม่มีส่วนผสมของน้ำ (มี 2 กลิ่น คือ กลิ่นมิราเคิล และกลิ่นคอมฟี่)

เทน้ำหอมอเนกประสงค์กรีนพลัสใส่ฟ้อกกี้ ปรับหัวให้พ่นละอองขนาดเล็กที่สุด ใช้ฉีดสเปรย์ไปในอากาศภายในห้อง กดเพียง 3-4 ครั้ง (ขึ้นกับขนาดของห้อง) ก็จะให้กลิ่นหอมนาน 3-4 ชั่วโมง

น้ำยาอเนกประสงค์กรีนพลัส เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ใช้ในงานทำความสะอาดได้หลากหลาย สามารถใช้ทำความสะอาดอุปกรณ์และพื้นผิวต่างๆ ที่สามารถล้างน้ำออกได้ เช่น พื้น ผนัง สุขภัณฑ์และเครื่องเรือน และล้างรถ ได้อีกด้วย

เนื่องจากน้ำยาอเนกประสงค์สามารถใช้ทำความสะอาดได้หลากหลายวัตถุประสงค์ ดังนั้นการใช้งาน จึงมีอัตราส่วนในการผสมน้ำ และวิธีใช้งานที่เหมาะกับงานแต่ละประเภท ดังนี้

• • สำหรับล้างพื้น ผสมน้ำยากับน้ำในอัตราส่วน 50 มล.ต่อน้ำ 5 ลิตร เทราดบริเวณพื้น หรือใช้แปรงจุ่ม แล้วขัดพื้นบริเวณที่ต้องการ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • สำหรับเช็ดเครื่องเรือน เช่น ประตู หน้าต่าง ผสมน้ำยากับน้ำในอัตราส่วน 50 มล.ต่อน้ำ 5 ลิตร นำมาเช็ดถูบริเวณที่ต้องการ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดให้สะอาดอีกรอบ
  • สำหรับล้างสุขภัณฑ์ ผสมน้ำยากับน้ำในอัตราส่วน 100 มล.ต่อน้ำ 5 ลิตร ใช้แปรงจุ่มขัดสุขภัณฑ์ให้สะอาด แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • สำหรับล้างรถยนต์ ผสมน้ำยากับน้ำในอัตราส่วน 100 มล.ต่อน้ำ 5 ลิตร ใช้ฟองน้ำหรือผ้าจุ่มน้ำยาเช็ดทำความสะอาดรถ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดพื้นมีหลายชนิด ตามส่วนผสมและวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ดังนี้

1. 1. น้ำยาถูพื้น เป็นน้ำยาที่ใช้ผสมกับน้ำ แล้วใช้ไม้ม้อบจุ่มแล้วบิดให้หมาด นำมาเช็ดถูทำความสะอาดพื้น มีส่วนผสมของสารทำความสะอาด ขจัดคราบสกปรกที่ฝังแน่นได้ง่ายกว่าการใช้น้ำเปล่า นอกจากนี้ยังมีการแต่งสี และแต่งกลิ่นหอม หรืออาจมีส่วนผสมที่ช่วยให้พื้นแห้งไว
   2. น้ำยาดับกลิ่นฆ่าเชื้อ เป็นน้ำยาที่ใช้ผสมน้ำ เช็ดถูทำความสะอาดพื้น คล้ายน้ำยาถูพื้น แต่จะมีส่วนผสของสารที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสบางชนิด
   3. น้ำยาดันฝุ่น/น้ำมันดันฝุ่น เป็นน้ำยาที่ใช้ทำความสะอาดพื้นโดยเป็นการเช็ดเก็บฝุ่น ที่ไม่ต้องกวาด และไม่ต้องถูด้วยน้ำ เหมาะสำหรับพื้นผิวที่หลีกเลี่ยงการถูพื้นแบบเปียก เช่น พื้นลามิเนต แต่มีข้อจำกัดคือ กรณีที่เป็นคราบเหนียวจากอาหารหรือเครื่องดื่ม จะต้องเช็ดบริเวณนั้นให้สะอาดด้วยน้ำก่อน

น้ำยาถูพื้นกรีนพลัส มี 4 กลิ่น คือ เพอร์เฟคเดย์ (สีส้ม) / เลิฟลี่ฟลอรัล (สีชมพู) / กรีนฟอเรสท์ (สีเขียว) / เพอร์เพิลรีแล็กซ์ (สีม่วง) ทั้ง 4 กลิ่น มีส่วนประกอบที่เหมือนกัน ต่างกันที่กลิ่น แล้วแต่ความชอบของลูกค้า

ทำความสะอาดพื้นได้สะอาด หมดจด แห้งไวเป็นพิเศษ ไม่ทำให้พื้นเหนียว ไม่ทิ้งคราบขาว ให้กลิ่นหอม สดชื่น

สำหรับทำความสะอาดพื้นทั่วไป
ผสมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้น กรีนพลัส สมาร์ท 50 มล. ลงในน้ำเปล่าครึ่งถัง (5 ลิตร) ใช้ผ้าหรือผ้าม็อบ จุ่มแล้วบิดให้หมาด นำมาเช็ดถูให้ทั่วบริเวณ โดยไม่ต้องเช็ดน้ำซ้ำ

สำหรับทำความสะอาดคราบฝังลึก
ผสมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้น กรีนพลัส สมาร์ท กับน้ำ ในอัตราส่วน 1 : 3 แล้วใช้ผ้าหรือผ้าม็อบ จุ่มแล้วบิดให้หมาด นำมาเช็ดให้ทั่วบริเวณที่ต้องการทำความสะอาด แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

สำหรับการทำความสะอาดพื้นทั่วไป ที่มีการผสมผลิต 50 มิลลิตร ต่อน้ำเปล่า 5 ลิตร ไม่จำเป็นต้องถูน้ำซ้ำ

น้ำยาปรับผ้านุ่มกรีนพลัส มี 2 ชนิด คือสูตรมาตรฐาน และสูตรเข้มข้น โดยสูตรเข้มข้นจะมีปริมาณสารสำคัญเยอะกว่า และเพิ่มสาร encapsulated perfume (น้ำหอมที่อยู่ในรูปของแคปซูลความหอม) จึงใช้ในปริมาณที่น้อยกว่าและคงกลิ่นหอมยาวนานกว่า

• น้ำยาปรับผ้านุ่มกรีนพลัส สูตรมาตรฐาน มี 4 สี 4 กลิ่น ได้แก่ Pink soft (สีชมพู) , Violet soft (สีม่วง) , Peach soft (สีส้ม) และ White soft (สีขาว)
• น้ำยาปรับผ้านุ่มกรีนพลัส สูตรเข้มข้นมี 3 สี 3 กลิ่น ได้แก่  Red velvet (สีแดง), Pink velvet (สีชมพู) และ Purple velvet (สีม่วง)

สูตรมาตรฐาน

ซักด้วยมือ : เทผลิตภัณฑ์ประมาณ 100 มิลลิลิตร ลงในน้ำสุดท้ายของการซัก แช่ทิ้งไว้ 10-15 นาที โดยไม่ต้องล้างน้ำออก จากนั้นบิดขึ้นตาก

ซักด้วยเครื่อง : เทผลิตภัณฑ์ประมาณ 150 มิลลิลิตร ลงในช่องใส่ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม หรือในน้ำสุดท้ายของการซัก

สูตรเข้มข้น

ซักด้วยมือ : เทผลิตภัณฑ์ประมาณ 60 มิลลิลิตร ลงในน้ำสุดท้ายของการซัก แช่ทิ้งไว้ 10-15 นาที โดยไม่ต้องล้างน้ำออก จากนั้นบิดขึ้นตาก

      ซักด้วยเครื่อง : เทผลิตภัณฑ์ประมาณ 80 มิลลิลิตร ลงในช่องใส่ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม หรือในน้ำสุดท้ายของการซัก

ใช้ทำความสะอาดทั่วไป และใช้ดับกลิ่นฆ่าเชื้อแบคทีเรียบริเวณพื้นผิวต่างๆ ได้แก่ พื้น ฝาผนัง และสุขภัณฑ์ น้ำยาดับกลิ่นฆ่าเชื้อกรีนพลัสมีกลิ่นหอม สามารถกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์ และมีสารฆ่าเชื้อโรค เพื่อฆ่าเชื้อที่เป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์

• สำหรับทำความสะอาดทั่วไป ผสมน้ำยาดับกลิ่นฆ่าเชื้อกรีนพลัส 50 มล. ลงในน้ำเปล่าครึ่งถัง (5 ลิตร) ใช้ผ้าหรือผ้าม็อบ จุ่มแล้วบิดให้หมาด นำมาเช็ดถูให้ทั่วบริเวณ โดยไม่ต้องเช็ดน้ำซ้ำ
• สำหรับดับกลิ่นฆ่าเชื้อ หลังทำความสะอาดพื้นผิว ผสมผลิตภัณฑ์ 1 ส่วนต่อน้ำ 5 ส่วน เทลงบนพื้นผิวที่ต้องการ ทิ้งให้เปียกนาน 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
• สำหรับสเปรย์เพื่อดับกลิ่นไม่พึงประสงค์และเพิ่มกลิ่นหอมในห้องน้ำ ผสมผลิตภัณฑ์ 1 ส่วนต่อน้ำ 5 ส่วน เทใส่ขวดฟ้อกกี้ ฉีดสเปรย์ในพื้นที่ที่ต้องการดับกลิ่น และเพิ่มกลิ่นหอมสะอาด เช่น ห้องน้ำ

ใช้ทำความสะอาด ขจัดคราบสกปรก คราบไขมัน คราบมัน ที่ติดตามเตาแก๊ส เตาอบ ปล่องดูดควัน พัดลมดูดอากาศ รวมถึงพื้นและผนังครัว

สเปรย์น้ำยาขจัดคราบมันกรีนพลัสให้ทั่วบริเวณที่ต้องการขจัดคราบสกปรก คราบไขมัน ทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นใช้ผ้า หรือฟองน้ำ เช็ดถูให้ทั่ว แล้วล้างออกให้สะอาด หรือใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออกให้สะอาด (ควรสวมถุงมือระหว่างการใช้งานทุกครั้งเพื่อป้องกันมือแห้ง)

น้ำยาล้างห้องน้ำกรีนพลัส มี 2 ชนิด คือ

1. 1. สูตรล้างประจำวัน มีกลิ่นหอม ฟองมาก ใช้ล้างคราบไคล คราบสบู่ และสิ่งสกปรก เหมาะสำหรับห้องน้ำที่ล้างบ่อย หรือไม่สกปรกมาก ไม่มีคราบสกปรกฝังแน่น เช่น คราบตะกรันน้ำ คราบสนิมน้ำ ไม่กัดกร่อนทำลายยาแนวกระเบื้องห้องน้ำ
   2. สูตรขจัดคราบหนัก มีกลิ่นฉุนเฉพาะ ไม่มีฟอง ใช้ล้างคราบสกปรกฝังแน่น เช่น คราบตะกรันน้ำ คราบสนิมน้ำ คราบไคล คราบสิ่งปฏิกูล เมื่อเทราดจะทำปฏิกิริยากับคราบหินปูน เกิดเป็นฟองฟู่ ควรใส่ถุงมือ แว่นตา เปิดประตูหน้าต่างให้อากาศระบายได้ดี นอกจากนี้อาจกัดกร่อนยาแนวกระเบื้องห้องน้ำได้ ดังนั้น ไม่ควรใช้บ่อย หรือวิธีการใช้ไม่ควร

ทิ้งน้ำยาไว้นาน หลังจากเทน้ำยาที่คราบสกปรก ควรขัดล้างออกภายใน 5 นาที สามารถใช้กับกระเบื้องได้ทุกชนิด ไม่ควรใช้กับพื้นที่เป็นหินธรรมชาติ เช่น หินแกรนิต หินอ่อน หินขัด

ราดน้ำบริเวณที่ต้องการทำความสะอาด เทน้ำยาล้างห้องน้ำกรีนพลัส สูตรล้างประจำวันลงบนบริเวณที่ต้องการทำความสะอาด จากนั้นใช้แปรงขัดคราบสกปรก แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ผสมผลิตภัณฑ์กับน้ำในอัตราส่วน 1:2 เทลงบนพื้นที่ต้องการทำความสะอาด (ไม่ควรทิ้งไว้นานเกินไป อาจทำให้ยาแนวกระเบื้องบางหรือหลุดร่อนได้ ควรรีบขัดล้างภายใน 5 นาที) ขัดให้ทั่ว แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

น้ำยาซักผ้ากรีนพลัส แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ดังนี้

1. 1. น้ำยาซักผ้า (Fabric detergent) เป็นน้ำยาซักเสื้อผ้า
        • สามารถขจัดคราบสกปรก คราบเหงื่อไคลที่คอปกเสื้อ คราบอาหาร คราบน้ำมัน ออกจากเสื้อผ้าได้ดี และถนอมเส้นใยผ้า
        • สามารถซักสะอาด แต่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ระคายเคืองหรือแพ้ง่าย จึงใช้ซักเสื้อผ้าเด็ก และชุดชั้นในได้
        • เป็นรูปแบบของเหลว จึงละลายง่าย ไม่ทิ้งคราบขาวบนเสื้อผ้า และไม่อุดตันในเครื่องซักผ้า เหมือนการใช้ผงซักฟอกบางชนิด
        • ให้กลิ่นหอมติดเสื้อผ้า เสื้อผ้าไม่มีกลิ่นอับ แม้ตากในที่ร่มน้ำยาซักผ้ากลุ่มนี้มี 2 สูตร คือ น้ำยาซักผ้ากรีนพลัส ดีลักซ์ และน้ำยาซักผ้ากรีนพลัส สมาร์ท
   2. น้ำยาซักผ้าขาว (Chlorine bleach) ใช้ร่วมกับน้ำยาซักผ้า ช่วยขจัดรอยเปรอะเปื้อน และคราบสกปรก เช่น คราบอาหาร คราบเลือด ชา กาแฟ รอยหมึก ซอส และอื่นๆ ที่อยู่บนผ้าขาว ให้ขาวสะอาด นอกจากนี้ยังขจัดกลิ่นอับของเสื้อผ้าได้ดี เหมาะสำหรับผ้าคอตตอน ลินิน โพลีเอสเตอร์
   3. น้ำยาซักผ้าสี หรือน้ำยาขจัดคราบเสื้อผ้า (Oxygen bleach) ใช้ร่วมกับน้ำยาซักผ้า ขจัดคราบสกปรก เช่น คราบเหงื่อไคล ซอส ชา กาแฟ น้ำผลไม้ และไวน์ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการขจัดคราบที่ติดแน่นในเนื้อผ้าที่เป็นสาเหตุให้ผ้าหมอง ดูเก่า ใช้ได้ทั้งผ้าขาวและผ้าสี เพราะไม่มีส่วนผสมของคลอรีน

น้ำยาซักผ้ากรีนพลัส มี 2 ชนิด

1. 1. ผลิตภัณฑ์ซักผ้า กรีนพลัส ดีลักซ์
   2. ผลิตภัณฑ์ซักผ้า กรีนพลัส สมาร์ท

1. ผลิตภัณฑ์ซักผ้า กรีนพลัส ดีลักซ์ ช่วยขจัดคราบสกปรกต่างๆ ได้ดี อ่อนโยน ไม่ทิ้งสารตกค้าง ไม่ระคายเคืองผิว สามารถใช้ซักเสื้อผ้า ชุดชั้นใน เสื้อผ้าเด็กอ่อนได้ 
2. ผลิตภัณฑ์ซักผ้า กรีนพลัส สมาร์ท นอกจากช่วยขจัดคราบสกปรกต่างๆ บนเสื้อผ้า ยังมีสารเพิ่มความสดใส (optical brightening agent) ที่ช่วยเพิ่มความสดใสให้แก่เนื้อผ้า ฟองไม่มาก สามารถใช้กับเครื่องซักผ้าทั้งฝาบน และฝาหน้า

ซักด้วยมือ : ผสมผลิตภัณฑ์ 30 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 15 ลิตร จำนวนผ้าประมาณ 5-10 ชิ้น
ซักด้วยเครื่อง : ผสมผลิตภัณฑ์ 45 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 30 ลิตร จำนวนผ้าประมาณ 10-20 ชิ้น

ขจัดคราบสกปรก และรอยเปื้อนที่ติดในใยผ้า ช่วยให้ผ้าขาวขาวสะอาด สดใส เหมาะสำหรับผ้าคอตตอน ลินิน โพลีเอสเตอร์

ซักด้วยมือ : ผสมผลิตภัณฑ์ 20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 15 ลิตร จำนวนผ้าประมาณ 5-10 ชิ้น
ซักด้วยเครื่อง : ผสมผลิตภัณฑ์ 40 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 30 ลิตร จำนวนผ้าประมาณ 10-20 ชิ้น

โดยใช้ร่วมกับผงซักฟอก หรือน้ำยาซักผ้า

กรณีคราบฝังแน่น ให้ใช้น้ำยาซักผ้าขาวกรีนพลัส 20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 2 ลิตร แช่ผ้าทิ้งไว้ 5-15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ใช้ในการซักผ้าร่วมกับน้ำยาซักผ้า ช่วยเพิ่มการขจัดคราบหมองที่ติดแน่นในเสื้อผ้าซึ่งน้ำยาซักผ้าอย่างเดียวไม่สามารถขจัดออกได้ ทำให้เสื้อผ้ากลับมามีสีสันสดใสมากขึ้น ไม่หมอง น้ำยาขจัดคราบเสื้อผ้ากรีนพลัสไม่มีส่วนผสมของคลอรีน จึงสามารถใช้ได้กับทั้งผ้าสีและผ้าขาว

ซักด้วยมือ : ผสมผลิตภัณฑ์ 20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 15 ลิตร จำนวนผ้าประมาณ 5-10 ชิ้น
ซักด้วยเครื่อง : ผสมผลิตภัณฑ์ 40 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 30 ลิตร จำนวนผ้าประมาณ 10-20 ชิ้น

น้ำยาดันฝุ่น เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นที่มีคุณสมบัติเช็ดเก็บฝุ่นได้ดี ทำให้พื้นสะอาด โดยไม่ต้องกวาด ไม่ทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย มักนิยมใช้ในพื้นที่ๆ ไม่สกปรกมาก ไม่มีคราบสกปรกที่เป็นคราบเหนียวจากอาหาร หรือเครื่องดื่ม เช่น ตามห้องโถงคอนโด สำนักงาน โรงพยาบาล โรงแรม และสามารถใช้เช็ดเก็บฝุ่นตามตู้ โต๊ะ เก้าอี้ ได้อีกด้วย

มี 2 ชนิด คือ

1. 1. ชนิดน้ำมัน มีลักษณะเป็นของเหลวใส ไม่มีสี เป็นน้ำมัน มีกลิ่นเฉพาะตัว ผู้ผลิตบางรายจะแต่งกลิ่นนมแมวเพื่อกลบกลิ่นน้ำมัน น้ำมันระเหยได้ง่าย ก่อนใช้งานควรฉีดสเปรย์ลงบนผ้า หรือผ้าม้อบ ทิ้งไว้ 1-6 ชั่วโมง ก่อนนำมาใช้ดันฝุ่น จะได้ผลดี
   2. ชนิดน้ำ มีลักษณะเป็นของเหลวขุ่นเป็นน้ำนม สีชมพู หรือฟ้า มีกลิ่นหอม ไม่ระเหย เวลาใช้งานสามารถฉีดสเปรย์น้ำยาบนผ้า หรือผ้าม้อบ แล้วใช้งานได้ทันที ราคาประหยัดกว่าชนิดน้ำมัน

กรีนพลัส มี น้ำมันดันฝุ่น และน้ำยาดันฝุ่น ขนาด แกลลอน 3.8 ลิตร และ ถัง 20 ลิตร

น้ำยาเคลือบเงาเบาะและเฟอร์นิเจอร์ สามารถใช้ได้หลายวัตถุประสงค์ ดังนี้

1. 1. เคลือบพื้นผิววัสดุที่เป็น หนังแท้ หนังเทียม ไวนิล คอนโซลรถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ยางรถยนต์ เพื่อบำรุงให้พื้นผิวมีความสวย เงางาม คงทน ไม่แห้งหรือแตกง่าย ย
   2. ใช้ทำความสะอาดหนังแท้และหนังเทียม ที่มีคราบสกปรกฝังอยู่ตามร่อง เช่น โซฟาหนัง เก้าอี้หนัง เบาะหนังของรถยนต์
   3. เคลือบเงารถยนต์

การใช้งานน้ำยาเคลือบเงาเบาะและเฟอร์นิเจอร์กรีนพลัส เคลือบพื้นผิววัสดุ (หนังแท้ หนังเทียม คอนโซลรถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ยางรถยนต์) มีวิธีการใช้ดังนี้

1. 1. ทำความสะอาดฝุ่นละอองที่เกาะอยู่ตามผิววัสดุด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ แล้วเช็ด รอให้แห้งสนิท
   2. เทน้ำยาเคลือบเงาเบาะและเฟอร์นิเจอร์กรีนพลัส (โดยไม่ต้องผสมน้ำ) ปริมาณเล็กน้อยลงบนผ้าสะอาดแล้วเช็ดวนๆ ไปให้ทั่วผิววัสดุ รอให้แห้งหรือใช้ผ้าแห้งเช็ดตาม